

สรุปปาฐกถาพิเศษในงานประชุมวิชาการ ME-NETT 2025 “Intelligent Systems in Mechanical Engineering: A Point of View – มุมมองระบบอัจฉริยะในวิศวกรรมเครื่องกล”โดย ศาสตราจารย์ ดร. วิบูลย์ แสงวีระพันธ์ศิริ Robotics and Artificial Intelligence, International School of Engineering, คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศาสตราจารย์ ดร. วิบูลย์ หนึ่งในนักวิจัยชั้นนำของประเทศไทยด้านหุ่นยนต์ทางการแพทย์ ซึ่งได้ถ่ายทอดมุมมองที่ลึกซึ้งต่อ “ระบบอัจฉริยะ” ในวิศวกรรมเครื่องกลในยุค AIท่านเน้นว่า แม้ AI และ Deep Learning จะมีศักยภาพมหาศาล แต่ก็ยังมีข้อจำกัดด้านเวลาในการประมวลผลและความไม่สามารถอธิบายผลได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบควบคุมที่ต้องการความแม่นยำแบบเรียลไทม์ เช่น หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดหรือแขนกลทางการแพทย์ ท่านชี้ให้เห็นว่า หลักการควบคุมแบบคลาสสิกและพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ยังคงมีบทบาทสำคัญและไม่อาจละเลยได้ในยุคที่ AI กำลังมาแรงนอกจากนี้ ศาสตราจารย์ ดร. วิบูลย์ ยังได้แบ่งปันประสบการณ์ในการจัดตั้ง บริษัทสตาร์ทอัพ จากผลงานวิจัย เพื่อสร้างรายได้และความยั่งยืนทางการเงินให้แก่ห้องปฏิบัติการของตนเอง ถือเป็นตัวอย่างที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มวิจัยอื่น ๆ ทั่วประเทศ ที่กำลังมองหาแนวทางการพัฒนา นวัตกรรม AI เพื่อรับใช้สังคมไทยและสร้างเศรษฐกิจฐานความรู้เนื้อหาของปาฐกถาครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความลึกซึ้งทางวิชาการ แต่ยังแสดงถึงการผสานองค์ความรู้วิศวกรรมเข้ากับจิตวิญญาณผู้ประกอบการ ในยุค AI สรุปเนื้อหาโดย อาจารย์ ดร. ครรชิต รองไชย, AI and Sustainability Lab, สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล
สรุปปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “AI กับจริยธรรมการวิจัย: สมดุลระหว่างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความถูกต้องทางวิชาการ”โดย ศาสตราจารย์ ดร. สมชาย วงศ์วิเศษ ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีในการบรรยายพิเศษครั้งนี้ ศาสตราจารย์ ดร. สมชาย วงศ์วิเศษ ได้กล่าวถึงประเด็นสำคัญที่สะท้อนถึงความจำเป็นในการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยี AI กับจริยธรรมทางวิชาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของงานวิจัยทางวิศวกรรมเครื่องกลการบรรยายเริ่มต้นด้วยการให้ความรู้เรื่องการประพฤติผิดทางวิจัย (Research Misconduct) ซึ่งรวมถึงการปลอมแปลงข้อมูล การลอกเลียนงานวิชาการ และการใช้ AI โดยไม่เปิดเผยแหล่งที่มา ท่านได้อ้างอิงถึงแนวปฏิบัติและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย เพื่อเน้นย้ำถึงความรับผิดชอบของนักวิจัยในการรักษาจริยธรรมในการทำงานจากนั้น ได้กล่าวถึงบทบาทของ AI และปัญญาประดิษฐ์แบบภาษา (LLMs: Large Language Models) ในกระบวนการวิจัยและการตีพิมพ์ผลงานวิชาการ ซึ่ง AI สามารถช่วยนักวิจัยได้ในหลายด้าน เช่น การสกัดประเด็นสำคัญจากบทความวิจัย การแปลผลกราฟและรูปภาพ การวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน และข้อผิดพลาดในงานวิจัย และการเขียนบทวิจารณ์ผลงานวิจัย (Peer Review Drafting)แม้ว่า AI จะเป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพสูง แต่ศาสตราจารย์ ดร. สมชาย ได้เน้นย้ำถึงปัญหา “Black Box” ซึ่งหมายถึงความไม่โปร่งใสในกระบวนการตัดสินใจของ AI รวมถึงความจริงที่ว่า AI ไม่สามารถรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้น การใช้ AI ในงานวิจัยจึงต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ และเปิดเผยอย่างโปร่งใสท่านได้ฝากข้อคิดแก่ผู้เข้าร่วมประชุมถึงความสำคัญของการรักษาจริยธรรมทั้งในฐานะนักวิจัยและผู้ใช้เทคโนโลยี AI โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทต่อการผลิตและเผยแพร่ความรู้ทางวิศวกรรมอย่างรวดเร็ว การคงไว้ซึ่งคุณธรรม ความรับผิดชอบ และความโปร่งใส จะเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาความน่าเชื่อถือและคุณภาพของวงการวิชาการไทยในอนาคตสรุปเนื้อหาโดย อาจารย์ ดร. ครรชิต รองไชย, AI and Sustainability Lab, สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์